ประโยชน์ของการปั่นจักรยาน
https://www.thairath.co.th/content/815407

ไม่ใช่ข่าวใหม่ถ้าเราจะบอกคุณว่าการปั่นจักรยานนั้นดี แต่มาย้ำกันอีกทีว่ากิจกรรมแต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน และเหล่านี้คือข้อดีของการเป็นสิงห์นักปั่น

หัวใจ
เมื่อหัวใจที่เต้นตึกตักระหว่างปั่นช่วยลดความเสี่ยงทุกประการที่จะนำพาไปสู่โรคหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าปั่นเป็นประจำเพียงครั้งละ 30 นาที จำนวน 3ครั้งต่อสัปดาห์ แนวโน้มเป็นโรคหัวใจจะลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับคนที่อยู่เฉย หนำซ้ำยังดีต่อปอดเพราะได้บริหารไปในตัว และไม่ต้องกลัวว่าการปั่นนอกบ้านจะเจอมลพิษเยอะ เพราะมีผลการวิจัยจาก Imperial College of London ยืนยันว่าคนปั่นจักรยานได้รับมลพิษน้อยกว่าคนที่นั่งอยู่บนรถยนต์หรือรถประจำทางเสียอีก

กล้ามเนื้อ
ไม่ใช่ได้แค่ขา แต่การปั่นจักรยานช่วยบริหารกล้ามเนื้อแทบทุกส่วน ไล่มาตั้งแต่ต้นขาหน้า ต้นขาหลัง สะโพก บั้นท้าย แกนกลางลำตัว แขน เรื่อยมาจนถึงไหล่ แต่จะมากหรือน้อยแตกต่างกัน นอกจากเรื่องขนาดและพละกำลังแล้ว การปั่นยังช่วย เพิ่มความอึด ทำให้คุณออกกำลังกายได้ยาวนานขึ้นแต่เหนื่อยน้อยลง เมื่อเทียบกับการวิ่งแล้ว การปั่นมีภาษีดีกว่าตรงที่คุณมีโอกาสที่จะปั่นขึ้นเนิน (เพิ่มความหนืด) หรือปั่นลงทางลาด (เกร็งกล้ามเนื้อ) มากกว่านักวิ่งที่ส่วนมากวิ่งกันทางเรียบ การใช้งานกล้ามเนื้อจึงไม่ท้าทายเท่าการปั่น

ข้อต่อ
จุดเด่นของการปั่นจักรยานคือแรงกระแทกที่กระทำกับข้อต่อต่างๆ ในร่างกายจะน้อยกว่าการวิ่ง จึงเป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับคนทุกวัย ไม่ว่าจะคนเจ็บ (ที่มีปัญหาเรื่องเข่า) คนอ้วน หรือคนชรา ต่อให้อายุเข้าเลข 7 หรือ 8 ก็ยังปั่นไหวรอบเอว การปั่นช่วยลดไขมันได้อย่างแน่นอน เยอะด้วยเพราะคลาสปั่นนาน 45 นาที สามารถเผาผลาญได้ถึง 600 แคลอรี (นั่นเท่ากับพิซซ่า 1 ชิ้น)ช่วยเร่งระบบเผาผลาญทำให้ร่างกายเบิร์นไขมันต่อเนื่อง อีกอย่างขณะปั่นเสร็จ ร่างกายจะลดปริมาณฮอร์โมนที่กระตุ้นความอยากอาหารทำให้คุณไม่ค่อยโหยหาของกิน ไม่เหมือนการว่ายน้ำ

จิตใจ
ช่วยคลายเครียดและขจัดความกังวล แต่ที่น่าสนใจคือผลการศึกษาของ New Economics Foundation พบว่าคนใช้จักรยานเป็นยานพาหนะเดินทางมีความเครียด ‘น้อยกว่า’ ผู้ที่ขับรถยนต์หรือใช้ระบบขนส่งมวลชน และการปั่นไปทำงานตอนเช้าๆ ยังช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานของคุณดีขึ้นด้วย

สมอง
สมองของคุณจะจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หลังทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ลองให้ผู้เข้าร่วมศึกษาเพิ่มการปั่นจักรยานมากขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ พบว่าพวกเขาสามารถทำคะแนนการทดสอบสภาพจิตดีขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ อันเป็นผลมาจากเซลล์สมองที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จากกิจกรรมปั่น ซึ่งเจ้าเซลล์ส่วนนี้จะถดถอยหลังอายุผ่านเข้าเลข 3

99% ของเมืองต่างๆ รอบโลกไม่มีปริมาณมลพิษเข้าไปทำร้ายร่างกายต่อให้คุณปั่น 2 ชั่วโมงต่อวันก็เถอะ ในขณะที่มีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มลพิษสูงจนไม่ปลอดภัย ประเทศส่วนใหญ่มองว่าไลฟ์สไตล์ที่ไม่แอคทีฟต่างหากที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพคนเรามากกว่าการปั่นกลางถนน