10 กรกฎาคม 2561 นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 พร้อมกับกำลังเจ้าหน้าที่ของ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) จำนวน 70 คน , กำลังเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและควบคุมไฟป่าจำนวน 82 คน , กำลังเจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ภัยกรมอุทยานฯ จำนวน 13 คนและเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ จำนวน 20 คน รวมทั้งสิ้น 185 คน ปฏิบัติการกู้ภัย ผู้พลัดหลงเข้าไปติดค้างอยู่ในถ้ำหลวง จำนวน 13 คน ที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เป็นการปฏิบัติการวันที่ 17 และเป็นการต่อเนื่องจากเมื่อวาน ดังนี้ (1) จัดส่งชุดปฏิบัติการภาคสนาม ร่วมตรวจสอบและเสริมความแข็งแรงของฝายเบี่ยงเบนน้ำ ที่ลำห้วยดั้น และลำห้วยมะกอก ที่ได้จัดทำไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ผลปรากฎว่าฝายทั้ง 2 ลำห้วยยังใช้การได้ดีตามปกติ จึงทำการเสริมความแข็งแรง และทำความสะอาดเศษใบไม้ มิให้มีการอุดตันท่อ (2) จัดส่งชุดปฏิบัติการภาคสนาม สนับสนุนการขนส่งถังออกซิเจน , ลำเลียงสัมภาระและอุปกรณ์ของหน่วยซิลเข้า-ออก ถ้ำหลวง (จุดนี้ห้ามถ่ายถาพ) (3) จัดส่งชุดเจ้าหน้าที่ ร่วมตำรวจท้องที่ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร (4) เวลา 08.00 - 09.00 น. นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานฯ และนายกมลไชย คชชา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่15 เข้าร่วมประชุมกับคณะศูนย์อำนวยการร่วมฯ พร้อมกันนี้ นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้รายงานผลการปฏิบัติงานให้ที่ประชุมทราบด้วย ( 5) เวลา ประมาณ 21.40 น. นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ร่วมแถลงข่าว มีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมฯ เป็นประธานการแถลง ผลการกู้ภัยสามารถช่วยผู้พลัดหลงติดค้างในถ้ำหลวง ออกมาได้ทั้งหมดแล้ว ขณะนี้ได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว